ดง บัง ชิน กิ
MC: Dongbangsin-gi, MR: Tongbangshin-gi)
ดง บัง ชิน กิ (เกาหลี (동방신기), MC: Dongbangsin-gi, MR: Tongbangshin-gi)
เป็นวง 5 หนุ่มบอยแบนด์จากเกาหลีใต้ ที่มีชื่อเป็นทางการว่า Tong Vfang Xien Qi (TVfXQ)
ซึ่งเป็นภาษาจีนโบราณ แปลว่า "เทพเจ้าที่เติบโตจากโลกตะวันออก"มีการร้องแบบ Acapella dance ดนตรีประสานเสียงแนวใหม่
และยังคงรู้จักในชื่ออื่นว่า DBSK/DBSG,TVXQ ,TVFXQ , THSK, Dong Bang Shin Gi, Dong Bang Shin Ki, Tohoshinki
2004: การปรากฏตัว
สมาชิกจะต้องถูกแยกมาจากวงอื่น ๆ ในการออดิชั่นต่างกันโดยค่าย SM Entertainment เด็กฝึกในบริษัทรวมถึงสมาชิกของ Super Junior ก็ถูกแบ่งแยกเพื่อหาความสามารถที่แท้จริงในแต่ละคน สมาชิกทั้งห้าคนของดง บัง ชิน กิ เป็นผู้นำในการร้องเพลงของแต่ละกลุ่มย่อยมารวมกัน
ดง บัง ชิน กิได้ปรากฏตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกวันที่ 26 ธ.ค. 2003 ในโชว์เคสของโบอา และบริทนีย์ สเปียรส์พวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็นนักร้องแนว อะคาเปลล่าป๊อป แสดงโชว์ด้วยเพลง Hug และเพลงอะคัพเพลล่า O Holy night พร้อมกับโบอา พวกเขาได้ปลุกวงการเพลงเกาหลีขึ้นมาอีกครั้ง ซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อว่า “HUG” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และอีกประมาณ 6 เดือนต่อมา ซิงเกิ้ลที่ 2 ของพวกเขา “The way U are” ทำยอดขายได้ประมาณ 600,000 แผ่น และในเดือน ก.ย. ปี 2004 พวกเขาทั้ง 5 ก็พร้อมสำหรับอัลบั้มเต็มชุดแรก “TRI-ANGLE” และ TVfXQ ก็ได้รับการยอมรับให้เป็น กลุ่มศิลปินที่ฮ็อตที่สุดในปี 2004
2006: ความสำเร็จทั่วทั้งเอเชีย
ความโด่งดังของ TVfXQ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในเกาหลีเท่านั้น โดยเฉพาะหลังจากได้ร่วมงานกับ โบอา และ The Trax ในซิงเกิ้ล “Tri-Angle” ก็ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่นและจีน โดย การทัวร์เอเชียครั้งแรกของพวกเขา โดยการเป็นแขกในกิจกรรมต่างๆ การติดต่อมากมาย ทั้งโฆษณาในประเทศต่างๆ รวมทั้ง มาเลเซีย ไทย และญี่ปุ่น SM entertainment เคยตัดสินใจที่จะให้มีสมาชิกจากประเทศจีนเพิ่มเข้ามา เพื่อจะเพิ่มความโด่งดังในประเทศอื่นๆ อย่างที่เห็นได้ใน The 3rd StoryBook - TVfXQ!, และแยกให้สมาชิกในวงแต่ละคน ทำกิจกรรมแบบเดี่ยว แต่หลังจากนั้น ความคิดนั้นก็ต้องล้มเหลวลงในทันที เมื่อได้รับฟังความเห็นจากแฟนๆ และพวกต่อต้าน ที่บอยคอตต์ (ต่อต้าน) สินค้าทุกอย่างจาก SM Entertainment ในเวลานั้น สมาชิกของดง บัง ชิน กิเป็นกลุ่มแรกของชาวเกาหลีที่ได้สร้างคอนเสิร์ตในประเทศมาเลเซีย ด้วย"Rising Sun 1st Asia Tour",ในบูกิต จาลี (พูทราอินดอร์เสตเดียม) และที่ประเทศไทย "TVXQ! Rising Sun Live in Bangkok 2006" ณ อิมแพคอารีนา เมื่อ 15 กันยายน 2549 ด้วยคนดูร่วม 13,000 คน หลังจากนั้นดง บัง ชิน กิก็ต้องเตรียมเพื่อคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งแรกในญี่ปุ่น "Heart, Mind and Soul", เพื่อจะโปรโมตอัลบั้มญี่ปุ่นของพวกเขา ดง บัง ชิน กิวางแผงไปถึง 5 ซิงเกิลในปีนั้น สมาชิกต้องฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นอย่างหนัก เพื่อการโปรโมตในประเทศ และสื่อสารกับแฟนเพลงให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับโบอาที่เคยเปิดตัวในญี่ปุ่น การออกนอกประเทศได้ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม และได้รับกำลังใจจากแฟนๆอย่างล้นหลาม พวกเค้าเป็นกลุ่มเอเชียนกลุ่มแรกที่ชนะสองรางวัลใน Thailand Music Awards ในรางวัล มิวสิกวีดีโอยอดเยี่ยม (RisingSun) และ ศิลปินเอเชียนยอดนิยม ในซิงเกิลที่ 7 ของโทโฮชินกิในญี่ปุ่น SKY ได้รับอันดับที่ 6 ในโอริคอนชาร์ทประจำสัปดาห์ และซิงเกิลที่ 8 miss you ได้รับอันดับสามในญี่ปุ่น ซิงเกิ้ลbeautiful you และ why did i fall in love with you ได้อันดับ1ในโอริคอนชาร์ท
ความโด่งดังของ TVfXQ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในเกาหลีเท่านั้น โดยเฉพาะหลังจากได้ร่วมงานกับ โบอา และ The Trax ในซิงเกิ้ล “Tri-Angle” ก็ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่นและจีน โดย การทัวร์เอเชียครั้งแรกของพวกเขา โดยการเป็นแขกในกิจกรรมต่างๆ การติดต่อมากมาย ทั้งโฆษณาในประเทศต่างๆ รวมทั้ง มาเลเซีย ไทย และญี่ปุ่น SM entertainment เคยตัดสินใจที่จะให้มีสมาชิกจากประเทศจีนเพิ่มเข้ามา เพื่อจะเพิ่มความโด่งดังในประเทศอื่นๆ อย่างที่เห็นได้ใน The 3rd StoryBook - TVfXQ!, และแยกให้สมาชิกในวงแต่ละคน ทำกิจกรรมแบบเดี่ยว แต่หลังจากนั้น ความคิดนั้นก็ต้องล้มเหลวลงในทันที เมื่อได้รับฟังความเห็นจากแฟนๆ และพวกต่อต้าน ที่บอยคอตต์ (ต่อต้าน) สินค้าทุกอย่างจาก SM Entertainment ในเวลานั้น สมาชิกของดง บัง ชิน กิเป็นกลุ่มแรกของชาวเกาหลีที่ได้สร้างคอนเสิร์ตในประเทศมาเลเซีย ด้วย"Rising Sun 1st Asia Tour",ในบูกิต จาลี (พูทราอินดอร์เสตเดียม) และที่ประเทศไทย "TVXQ! Rising Sun Live in Bangkok 2006" ณ อิมแพคอารีนา เมื่อ 15 กันยายน 2549 ด้วยคนดูร่วม 13,000 คน หลังจากนั้นดง บัง ชิน กิก็ต้องเตรียมเพื่อคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งแรกในญี่ปุ่น "Heart, Mind and Soul", เพื่อจะโปรโมตอัลบั้มญี่ปุ่นของพวกเขา ดง บัง ชิน กิวางแผงไปถึง 5 ซิงเกิลในปีนั้น สมาชิกต้องฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นอย่างหนัก เพื่อการโปรโมตในประเทศ และสื่อสารกับแฟนเพลงให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับโบอาที่เคยเปิดตัวในญี่ปุ่น การออกนอกประเทศได้ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม และได้รับกำลังใจจากแฟนๆอย่างล้นหลาม พวกเค้าเป็นกลุ่มเอเชียนกลุ่มแรกที่ชนะสองรางวัลใน Thailand Music Awards ในรางวัล มิวสิกวีดีโอยอดเยี่ยม (RisingSun) และ ศิลปินเอเชียนยอดนิยม ในซิงเกิลที่ 7 ของโทโฮชินกิในญี่ปุ่น SKY ได้รับอันดับที่ 6 ในโอริคอนชาร์ทประจำสัปดาห์ และซิงเกิลที่ 8 miss you ได้รับอันดับสามในญี่ปุ่น ซิงเกิ้ลbeautiful you และ why did i fall in love with you ได้อันดับ1ในโอริคอนชาร์ท
กลับสู่เกาหลี
พวกเขากลับประเทศเกาหลีในตอนท้าย ๆ เดือนสิงหาคม เพื่อจะเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มที่สาม โอชยองบันฮับ "O" ซึ่งวางแผงในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งมีหลายเวอร์ชัน ทั้ง A ที่มีทั้งโปสเตอร์ และหนังสือภาพ แบบบี ที่มีโปสเตอร์และดีวีดีพิเศษ ในเดือนแรก อัลบั้มถูกขายไปแล้วกว่าแสนแผ่นในเกาหลีใต้ และขายได้มากกว่า 330,000 แผ่นในเวลาต่อมา โอชองบันฮับวางแผงอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2006 ซึ่งเร็วกว่าสองเดือนที่แบบหลักวางแผง พวกเขาได้เปลี่ยนแผนที่จะนำซิงเกิลที่สองออกมา เป็น บอลลูน และเก็ทมีซัม พร้อมทั้งเพลง네 곁에 숨쉴 수 있다면 (White Lie...) ที่แต่งโดย ชีอา จุนซูแห่งดง บัง ชิน กิ หลังจากที่สองแบบแรกได้วางแผงไป ก็ได้มีแผ่นพิเศษจาก DVD Vacation ละคร ที่พวกเขาแสดง และในอีกแผ่นหนึ่ง
พวกเขากลับประเทศเกาหลีในตอนท้าย ๆ เดือนสิงหาคม เพื่อจะเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มที่สาม โอชยองบันฮับ "O" ซึ่งวางแผงในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งมีหลายเวอร์ชัน ทั้ง A ที่มีทั้งโปสเตอร์ และหนังสือภาพ แบบบี ที่มีโปสเตอร์และดีวีดีพิเศษ ในเดือนแรก อัลบั้มถูกขายไปแล้วกว่าแสนแผ่นในเกาหลีใต้ และขายได้มากกว่า 330,000 แผ่นในเวลาต่อมา โอชองบันฮับวางแผงอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2006 ซึ่งเร็วกว่าสองเดือนที่แบบหลักวางแผง พวกเขาได้เปลี่ยนแผนที่จะนำซิงเกิลที่สองออกมา เป็น บอลลูน และเก็ทมีซัม พร้อมทั้งเพลง네 곁에 숨쉴 수 있다면 (White Lie...) ที่แต่งโดย ชีอา จุนซูแห่งดง บัง ชิน กิ หลังจากที่สองแบบแรกได้วางแผงไป ก็ได้มีแผ่นพิเศษจาก DVD Vacation ละคร ที่พวกเขาแสดง และในอีกแผ่นหนึ่ง
ก็ได้รวม โชว์เคสอัลบั้มสามของพวกเขาด้วย
SM ได้แถลงข่าวจะมีการวางแผงในไต้หวัน ซึ่งได้ระดับทอปอันดับห้าของซิงเกิล หลังจากนั้น ดง บัง ชิน กิได้เปลี่ยนจากการโปรโมตโอชองบันฮับแนวเพลง เฮวี อาร์แอนด์บี และจังหวะเทคโน มาเป็น บอลลูน ซึ่งเป็นเพลงป๊อบน่ารัก ๆ เกี่ยวกับความไร้เดียงสาของเด็กๆ โดยที่ได้จัดทำใหม่อีกครั้งจากเพลงของ Five Finger และเขียนใหม่ด้วยความรู้สึกโมเดิร์นกว่า มิวสิกวิดีโอ สมาชิกได้แต่งชุดสัตว์พร้อมกับลูกโป่งมากมาย และเด็กเล็กๆ ที่แต่งตัวเหมือนกัน และด้วยแนวของการแต่งตัวแบบนั้น พวกเค้าจึงใส่ชุดของเด็กๆในการ
แสดงอื่นๆ ทั้ง เสมิร์ฟ คนแคระทั้งเจ็ด พีเตอร์แพน มาริโอ และแฮรีพอตเตอร์ สมาชิกของดง บัง ชิน กิ ได้แยกกันไปปรากฏตัวในรายการวาไรตี้โชว์ต่าง ในปี 2006 มีทั้ง X-Man,Heroine 6, and Love Letter บางครั้งก็ไปแยกกัน แต่บางครั้งก็ไปกันครบทั้งห้าคน ดง บัง ชิน กิเป็นแขกพิเศษใน 51st Asia Pacific Film Festivalซึ่งจัดใน ไทเป พวกเขาได้เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่นักแสดงหญิง เอเรียล ลินนและได้แสดงโอชองบันฮับ ในงาน 2006 MKMF Music Festival พวกเค้าได้รับรางวัลถึง 4 รางวัล รวมทั้งกลุ่มยอดเยี่ยม และศิลปินแห่งปี
ในงาน 16th Music Seoul Festival ซึ่งจัดในวันที่ 1 ธันวาคม พวกเขาได้รับรางวัลสามรางวัล รวมถึง แทซาง ซึ่งหมายถึง รางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งปี และพวกเขาได้รับรางวัลแทซังอีกครั้งในงาน 21st Golden Disk Awards 2006 ในวันที่ 14 ธันวาคม ปี 2006และได้ พนซาง ในรายการ SBS Gayo Awards 2006 ในวันที่ 29ธันวาคม พวกเขาได้รับรางวัลแทซัง ซึ่งเสริมมาจากพนซัง ทำให้พวกเขาได้เป็น เจ้าชายแห่งรางวัล แทซังสี่รางวัล ของทั้งรายการใหญ่ๆในวงการเพลงเกาหลี และหลังจากอัลบั้ม 3 พวกเขาก็หายไปจากวงการเพลงเกาหลีถึง 1 ปี 7เดือนซึ่งเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากสำหรับแคสสิโอเปีย และพวกเขาก็ทำให้วงการเพลงเกาหลีตกตะลึงอีกครั้ง กับการคังแบคของพวกเขาในเพลง mirotic หลังจากที่พวกเขาขึ้นโชว์ได้ไม่นานพวกเขาก็ได้รับรางวัลคว้าอันดับ 1 ใน M!Countdownและรายการ อินกองกิโยอีกด้วย ยอดขายอัลบั้มที่4 ของพวกเขาแค่วางขายไปได้แค่2วันก็สามารถถล่มชาร์ตประจำเดือนของ Hanteo ออฟไลน์ Yes24ออนไลน์ ได้อย่างไม่อยากเย็น และยอดขายอัลบั้ม4พวกเขาก็ยังเป็นอัลบั้ม ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในปี2008อีกด้วย
ในงาน 16th Music Seoul Festival ซึ่งจัดในวันที่ 1 ธันวาคม พวกเขาได้รับรางวัลสามรางวัล รวมถึง แทซาง ซึ่งหมายถึง รางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งปี และพวกเขาได้รับรางวัลแทซังอีกครั้งในงาน 21st Golden Disk Awards 2006 ในวันที่ 14 ธันวาคม ปี 2006และได้ พนซาง ในรายการ SBS Gayo Awards 2006 ในวันที่ 29ธันวาคม พวกเขาได้รับรางวัลแทซัง ซึ่งเสริมมาจากพนซัง ทำให้พวกเขาได้เป็น เจ้าชายแห่งรางวัล แทซังสี่รางวัล ของทั้งรายการใหญ่ๆในวงการเพลงเกาหลี และหลังจากอัลบั้ม 3 พวกเขาก็หายไปจากวงการเพลงเกาหลีถึง 1 ปี 7เดือนซึ่งเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากสำหรับแคสสิโอเปีย และพวกเขาก็ทำให้วงการเพลงเกาหลีตกตะลึงอีกครั้ง กับการคังแบคของพวกเขาในเพลง mirotic หลังจากที่พวกเขาขึ้นโชว์ได้ไม่นานพวกเขาก็ได้รับรางวัลคว้าอันดับ 1 ใน M!Countdownและรายการ อินกองกิโยอีกด้วย ยอดขายอัลบั้มที่4 ของพวกเขาแค่วางขายไปได้แค่2วันก็สามารถถล่มชาร์ตประจำเดือนของ Hanteo ออฟไลน์ Yes24ออนไลน์ ได้อย่างไม่อยากเย็น และยอดขายอัลบั้ม4พวกเขาก็ยังเป็นอัลบั้ม ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในปี2008อีกด้วย
สู่ตลาดในญี่ปุ่นและอัลบั้มภาษาเกาหลีชุดที่สาม
ดง บัง ชิน กิได้กระตือรือร้นในการโปรโมทพวกเขาในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 7 มีนาคม 2007 ได้มีการวางแผงซิงเกิลที่สิบ Choosey Lover ซึ่งติดอันดับ 4 ของชาร์ตโอริคอนในญี่ปุ่นในสัปดาห์ที่พวกเขาวางแผงทันที ซึ่งเป็นวงที่สิบที่มีซิงเกิลถึงสิบซิงเกิล ติดอยู่ในชาร์ตของโอริคอนทั้งหมด ตั้งแต่ StayWith Me Tonight
ซิงเกิลแรก ในเดือนเมษายน 2005 และในวันที่ 14 มีนาคม 2007 ดง บัง ชิน กิได้ออกอัลบั้มที่สองในชื่อ Five In The Black ซึ่งได้อันดับที่หกของโอริคอนอัลบั้มชาร์ท ต้นเดือนเมษายน ดง บัง ชิน กิได้อยู่กับรายการวิทยุรายสัปดาห์ TVXQ Bigeastation ของ Japan FM Network ซึ่งรายการนี้ ถ่ายทอดไปถึง 7 สถานีท้องถิ่น และโด่งดังในประเทศ ผู้ลงนามให้ดง บัง ชิน กิได้ขึ้นไปเป็นอันดับความนิยม หรือแฟนๆ ได้ถามถึงเวลาที่จะออนแอร์ทั้งในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว และโอซาก้า มากมาย ดง บัง ชิน กิ เป็นตัวแทนเกาหลีในงานของ MTV Video Music Awards Japan2007 ในวันที่ 26 พฤษภาคม ณ ไซทามะ ซูเปอร์อารีนา พวกเขาจะวางแผงซิงเกิลที่ 11 Lovin’ You ในวันที่ 13 มิถุนายน 2007
แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ดง บัง ชิน กิ หรือ SM Town มีข่าวรั่วไหล่ออกมา ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2007 จะมีซิงเกิลที่ห้า Heat Wave여름 뜨거움. :ซึ่งจะประกอบด้วยเพลงใหม่สองเพลง รีมิกซ์หนึ่งเพลง และบรรเลงสองเพลง ซึ่งเพลงรีมิกซ์นั้นเคยวางแผงมาก่อนแล้ว และจะเป็นไสตล์ฮิบฮอบ รีมิกซ์ ของเพลง Phantom ซึ่งอยู่ในแทรกซ์ที่เก้าของอัลบั้มเกาหลี โอชองบันฮับ"O" ซึ่งจะเปลี่ยนจังหวะใหม่ รวมถึงเนื้อร้องแรพอีกสองท่อนพิเศษ และคิมแจจุงเคยพูดเป็นนัยไว้ ว่าจะมีซิงเกิลเกาหลีใหม่ และเขายังบอกเมื่อไม่นานมานี้อีกว่า เค้าจะแต่งเพลงบางเพลง และความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเค้าคือ เพลงแนวใหม่ ซึ่งเกี่ยวกับความรักที่ไม่มีคำตอบ ซึ่งอยู่ในซิงเกิลใหม่ ในเพลง 10 Questions 질문 แต่ยังไม่มีข้อมูลอื่นใดปรากฏชัดนักเกี่ยวกับเพลงที่ชื่อ Heat-Wave 여름 뜨거움.
แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ดง บัง ชิน กิ หรือ SM Town มีข่าวรั่วไหล่ออกมา ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2007 จะมีซิงเกิลที่ห้า Heat Wave여름 뜨거움. :ซึ่งจะประกอบด้วยเพลงใหม่สองเพลง รีมิกซ์หนึ่งเพลง และบรรเลงสองเพลง ซึ่งเพลงรีมิกซ์นั้นเคยวางแผงมาก่อนแล้ว และจะเป็นไสตล์ฮิบฮอบ รีมิกซ์ ของเพลง Phantom ซึ่งอยู่ในแทรกซ์ที่เก้าของอัลบั้มเกาหลี โอชองบันฮับ"O" ซึ่งจะเปลี่ยนจังหวะใหม่ รวมถึงเนื้อร้องแรพอีกสองท่อนพิเศษ และคิมแจจุงเคยพูดเป็นนัยไว้ ว่าจะมีซิงเกิลเกาหลีใหม่ และเขายังบอกเมื่อไม่นานมานี้อีกว่า เค้าจะแต่งเพลงบางเพลง และความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเค้าคือ เพลงแนวใหม่ ซึ่งเกี่ยวกับความรักที่ไม่มีคำตอบ ซึ่งอยู่ในซิงเกิลใหม่ ในเพลง 10 Questions 질문 แต่ยังไม่มีข้อมูลอื่นใดปรากฏชัดนักเกี่ยวกับเพลงที่ชื่อ Heat-Wave 여름 뜨거움.
2nd Asia Live Tour Concert 'O'
ดง บัง ชิน กิ ที่ปารีส
จากการวางแผงอัลบั้มใน 7 ประเทศ (เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ จีนและฮ่องกง) พวกเขาเริ่มการทัวร์ในประเทศเอเชียเพื่อจะโปรโมตสนับสนุนอัลบั้มที่สามของพวกเขา ทัวร์เริ่มขึ้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2007 ที่โอลิมปิกปาร์ค ในกรุงโซลแฟนเพลง 12,000 คนให้ความสนใจ และเกินกว่า1500 คนของแฟนเพลงมาจากญี่ปุ่น จีน ประเทศไทย รวมทั้งประเทศอื่นๆในเอเชีย คอนเสิร์ตแสดงไปถึง 24 เพลง ทั้งร้องและเต้น รวมทั้งเพลงฮิตอย่าง hug และ rising sun ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ จะไปอีก 6 สถานที่ซึ่งกินเวลากว่าครึ่งปี ทั้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ไทเป ฮ่องกง กรุงเทพ และกัวลาลัมเปอร์
โดยหนุ่มๆ ทั้งห้าคนได้เดินทางมาร่วมโปรโมทคอนเสิร์ท Yamaha presents TVXQ! The 2nd Asia Tour Concert "O" in Bangkok เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2007 ซึ่งคอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 15 และ วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2007 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยวันที่ 15 ก็มีเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับเซีย จุนซูอีกด้วย
2nd Live Tour 2007 - Five in the Black" (Japan)
เนื่องจากอัลบั้มที่สองที่ญี่ปุ่นที่วางแผงไป Five in the Black ดง บัง ชิน กิจึงจะมีคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 5 พฤษภาคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งตามตารางแล้วจะมีการแสดงถึง 14 ครั้งใน 9 เมือง แต่แผนการถูกแก้ไขเป็นการแสดง 16 ครั้งเนื่องจากคำแย้งจากแฟนๆ รวมทั้งโชว์ในนิปปอน บูโดกัง
อัลบัมชุดที่ 4 Mirotic ประสบความสำเร็จทั่วเอเชีย
ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2008 เป็นวันที่อัลบัมชุดที่ 4 "mirotic" ได้วางจำหน่าย ยอดจำหน่ายชุดที่ 4 ของทงบังชินกิ ได้จำหน่ายเกิน500,000 ชุด ส่งผลให้เป็นศิลปินที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศเกาหลีในรอบ 5 ปี โดยแบ่งเป็น จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 167,697 ชุด ช่องทางร้านค้า 335,140 รวมเป็น 502,837 ชุด โดยเฉพาะ pre-sale ของพวกเขามียอดจองสูงถึง 300,000 ชุด
อัลบัมชุดที่ 4 ที่ญี่ปุ่น The Secret Code ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่ญี่ปุ่น
อัลบัมที่ 4 ของพวกเขาที่ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า The secret code ได้รับการตอบรับสุดร้อนแรงในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2552 กับการวางจำหน่ายผลงานอัลบั้มชุดที่ 4 The Secret Code ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 3 สัปดาห์พวกเขาสามารถจำหน่ายผลงานได้ทะลุเกิน 2 แสนชุดเรียบร้อย Oricon Style เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายอัลบั้มชุดที่ 4 ของดงบังชินกิ จนถึงวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา สามารถขายได้แล้วกว่า 190,432 ชุด ในขณะที่สัปดาห์ที่ 3 ประจำเดือนนี้ขายไปได้อีก 15,003 ชุด รวมแล้วก็จะได้ทั้งสิ้น 205,435 ชุด ย้อนกลับไปในวันที่วางจำหน่ายวันแรกเพียงวันเดียวสามารถจำหน่ายไปได้กว่า 82,000 ชุด นับได้ว่าร้อนแรงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยอดจำหน่ายในวันนั้นยังเป็นสถิติใหม่ของดงบังชินกิที่มียอดขายมากที่สุด ท่ามกลางสตูดิโออัลบั้มที่เคยวางจำหน่ายทั้งหมดของพวกเขา
ไม่แต่เพียงเท่านั้นผลงานอัลบั้มใหม่ของดงบังชินกิ ยังได้รับเลือกจากสมาพันธ์แผ่นเสียงประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับตำแหน่ง GOLD อัลบั้มประจำเดือนมีนาคม โดยสำหรับตำแหน่ง GOLD นั้น จะมีไว้สำหรับงานเพลงที่มียอดจำหน่ายเกิน 100,000 ชุดขึ้นไป อย่างไรก็ตามสำหรับผลงานอัลบั้มชุดที่ 4 ที่เพียงเวลา 3 สัปดาห์ ก็สามารถจำหน่ายได้ 200,000 แผ่น นอกจากนี้ผลงานของพวกเขายังขายได้เกิน 250,000 แผ่นขึ้นไป ส่งผลให้ดงบังชินกิ ได้รับตำแหน่ง PLATINUM ไปในทันทีอีกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ทัวร์อัลบัมที่ 4 ของพวกเขา จะปิดท้าย ที่โตเกียวโดม หลังจากการทัวร์อารีน่ากว่า 18 รอบ รวมผู้ชมกว่า 500,000 คน
เนื่องจากอัลบั้มที่สองที่ญี่ปุ่นที่วางแผงไป Five in the Black ดง บัง ชิน กิจึงจะมีคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 5 พฤษภาคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งตามตารางแล้วจะมีการแสดงถึง 14 ครั้งใน 9 เมือง แต่แผนการถูกแก้ไขเป็นการแสดง 16 ครั้งเนื่องจากคำแย้งจากแฟนๆ รวมทั้งโชว์ในนิปปอน บูโดกัง
อัลบัมชุดที่ 4 Mirotic ประสบความสำเร็จทั่วเอเชีย
ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2008 เป็นวันที่อัลบัมชุดที่ 4 "mirotic" ได้วางจำหน่าย ยอดจำหน่ายชุดที่ 4 ของทงบังชินกิ ได้จำหน่ายเกิน500,000 ชุด ส่งผลให้เป็นศิลปินที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศเกาหลีในรอบ 5 ปี โดยแบ่งเป็น จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 167,697 ชุด ช่องทางร้านค้า 335,140 รวมเป็น 502,837 ชุด โดยเฉพาะ pre-sale ของพวกเขามียอดจองสูงถึง 300,000 ชุด
อัลบัมชุดที่ 4 ที่ญี่ปุ่น The Secret Code ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่ญี่ปุ่น
อัลบัมที่ 4 ของพวกเขาที่ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า The secret code ได้รับการตอบรับสุดร้อนแรงในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2552 กับการวางจำหน่ายผลงานอัลบั้มชุดที่ 4 The Secret Code ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 3 สัปดาห์พวกเขาสามารถจำหน่ายผลงานได้ทะลุเกิน 2 แสนชุดเรียบร้อย Oricon Style เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายอัลบั้มชุดที่ 4 ของดงบังชินกิ จนถึงวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา สามารถขายได้แล้วกว่า 190,432 ชุด ในขณะที่สัปดาห์ที่ 3 ประจำเดือนนี้ขายไปได้อีก 15,003 ชุด รวมแล้วก็จะได้ทั้งสิ้น 205,435 ชุด ย้อนกลับไปในวันที่วางจำหน่ายวันแรกเพียงวันเดียวสามารถจำหน่ายไปได้กว่า 82,000 ชุด นับได้ว่าร้อนแรงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยอดจำหน่ายในวันนั้นยังเป็นสถิติใหม่ของดงบังชินกิที่มียอดขายมากที่สุด ท่ามกลางสตูดิโออัลบั้มที่เคยวางจำหน่ายทั้งหมดของพวกเขา
ไม่แต่เพียงเท่านั้นผลงานอัลบั้มใหม่ของดงบังชินกิ ยังได้รับเลือกจากสมาพันธ์แผ่นเสียงประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับตำแหน่ง GOLD อัลบั้มประจำเดือนมีนาคม โดยสำหรับตำแหน่ง GOLD นั้น จะมีไว้สำหรับงานเพลงที่มียอดจำหน่ายเกิน 100,000 ชุดขึ้นไป อย่างไรก็ตามสำหรับผลงานอัลบั้มชุดที่ 4 ที่เพียงเวลา 3 สัปดาห์ ก็สามารถจำหน่ายได้ 200,000 แผ่น นอกจากนี้ผลงานของพวกเขายังขายได้เกิน 250,000 แผ่นขึ้นไป ส่งผลให้ดงบังชินกิ ได้รับตำแหน่ง PLATINUM ไปในทันทีอีกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ทัวร์อัลบัมที่ 4 ของพวกเขา จะปิดท้าย ที่โตเกียวโดม หลังจากการทัวร์อารีน่ากว่า 18 รอบ รวมผู้ชมกว่า 500,000 คน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น