ซูเปอร์จูเนียร์< 슈퍼주니어>
ซูเปอร์จูเนียร์ (อังกฤษ: Super Junior; เกาหลี: 슈퍼주니어) หรือที่เรียกสั้นๆว่า "เอสเจ (SJ)" หรือ "ซูจู (SuJu)" เป็นกลุ่มวงดนตรีบอยแบนด์จากประเทศเกาหลีใต้ ในสังกัดของ เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เดิมประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 12 คน (ชาวเกาหลี 11 คน และชาวจีน 1 คน) แต่ก็ได้รับสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ทำให้ซูเปอร์จูเนียร์มีสมาชิกรวมแล้ว 13 คน ถือได้ว่าเป็นวงบอยแบนด์ที่มีสมาชิกมากที่สุดอีกวงหนึ่ง โดยสมาชิกทั้งหมดของวงล้วนแล้วแต่ผ่านการคัดเลือกจากเวทีต่างๆเข้ามา และทั้งหมดก็ล้วนแต่มีความสามารถที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยล้วนแล้วแต่ผ่านการทำงานในสายบันเทิงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแสดง พิธีกร หรือนายแบบ
สีประจำวง : สีน้ำเงินมุก หรือ สีน้ำเงินมรกต (Sapphire Blue)
ประวัติและความเป็นมา
ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี พ.ศ. 2547 เกิดข่าวลือหนาหูแพร่สะพัดไปในอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับการก่อตั้งบอยแบนด์กลุ่มใหญ่ของ เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ จนกระทั่งในตอนต้นของปี พ.ศ. 2548 เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้ออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าว พร้อมทั้งประกาศว่า บอยแบนด์กลุ่มดังกล่าวจะมีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 12 คน และจะทำการเปิดตัวต่อสาธารณชนในช่วงก่อนสิ้นปี นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเน้นว่า บอยแบนด์กลุ่มนี้จะกลายเป็น "ประตูสู่ความเป็นดาวแห่งเอเชีย ( The Gateway to Stardom of Asia )" ในขณะนั้น พวกเขาถูกเรียนขานว่า โอเวอร์ หรือ โอ.วี.อี.อาร์. ( O.V.E.R. ) ซึ่งย่อมาจาก "ยึดมั่นในท่วงทำนองของแต่ละจังหวะ ( Obey the Voice for Each Rhythm )" และในภายหลัง ได้กลายมาเป็น ซูเปอร์จูเนียร์ 05 ก้าวแรกของซูเปอร์จูเนียร์ในปัจจุบัน
ซูเปอร์จูเนียร์ได้ออกมาปรากฏตัวเป็นครั้งแรก ก่อนหน้าการเปิดตัวในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2548 ทางสถานี M.NET ในรายการดังกล่าว ซูเปอร์จูเนียร์ได้แสดงการเต้นสไตล์ฮิบฮอปในหลากหลายรูปแบบ พวกเขาทั้งหมดเต้นร่วมกันในเพลง "Take It To The Floor" ของวง บีทูเค (B2K) นอกจากนั้น ฮันคยอง, อึนฮยอค และดงแฮ ยังได้เต้นเพลง "Caught Up" ของ อัชเชอร์(Usher) อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี รายการดังกล่าวไม่ได้ถูกนำออกอากาศ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 รายการที่บันทึกไว้ได้กลายเป็นช่วงหนึ่งของรายการ "Super Junior Show" ซึ่งเป็นรายการสารคดีทางโทรทัศน์เรื่องแรกของพวกเขา
2548 - 2549 : เปิดตัวต่อสาธารณชน
ภาพโปรโมตภาพแรกของซูเปอร์จูเนียร์
ซูเปอร์จูเนียร์ได้เปิดตัวและออกรายการโทรทัศน์ครั้งแรกที่สถานีเอสบีเอส ในรายการ "Ingigayo" หรือ "Popular Songs" เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนพ.ศ. 2548 พร้อมกับการแสดงในเพลง "Twins (Knock Out)"
ซิงเกิลแรกของพวกเขา ซึ่งภายหลังจากการแสดงครั้งนั้น ซูเปอร์จูเนียร์ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลง และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ทางต้นสังกัดตัดสินใจที่จะออกวางขายอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของซูเปอร์จูเนียร์ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยที่ก่อนหน้านี้นั้นซูเปอร์จูเนียร์ ได้ออกซิงเกิลพิเศษ
ที่มีชื่อว่า "Show Me Your Love" ร่วมกับสมาชิกร่วมค่ายอย่างวงดง บัง ชิน กิไปแล้ว
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2548 นอกจากความโด่งดังของซูเปอร์จูเนียร์ในประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิดแล้ว พวกเขายังเป็นที่รู้จักในต่างประเทศอีกด้วยโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่พวกเขาได้มีโอกาสไปร่วมงาน "พัทยามิวสิกเฟสติวอล 2006" เมื่อวันที่ 17 มีนาคม - 19 มีนาคม พ.ศ. 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ในประเทศจีนเองพวกเขาก็มีเว็บไซต์ที่เหล่าแฟนคลับทำขึ้น
2549 - 2550 : ซิงเกิล "U" และความสำเร็จ
ภาพโปรโมตซิงเกิล "U" ครั้งแรกของการเป็น 13 คน
ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ตันสังกัดได้ประกาศสมาชิกคนที่ 13 คยูฮยอน ทำให้ซูเปอร์จูเนียร์ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 13 คน และพวกเขาได้ออกซิงเกิลใหม่ที่มีชื่อว่า "U" โดยได้เปิดให้ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของ เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ฟรี ในวันที่ 25 พฤษภาคม และ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ตามลำดับ เพื่อตอบแทนแฟนเพลงที่ให้การตอบรับซูเปอร์จูเนียร์เป็นอย่างดี โดยมียอดดาว์นโหลดกว่า 400,000 ครั้งภายใน 5 ชั่วโมง และยอดดาว์นโหลดรวมกว่า 1.4 ล้านครั้ง
ซีดีซิงเกิล "U" ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2549 และสามารถขายได้กว่า 83,000 หน่วย
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมิวสิกวิดีโอของพวกเขา ที่มีชื่อว่า "Dancing Out" ได้เริ่มออกอากาศตามสถานีโทรทัศน์ และซูเปอร์จูเนียร์ก็ได้ออกแสดงโปรโมทตามรายการโทรทัศน์สถานีต่างๆ โดยมิวสิกวีดีโอเพลงนี้ถ่ายทำกันที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อครั้งที่ซูเปอร์จูเนียร์ได้เป็นแขกรับเชิญพิเศษให้กับคอนเสิร์ตของนักร้องร่วมค่ายอย่าง ดง บัง ชิน กิ ที่จัดขึ้นที่นั่นในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2549 อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นถึง 2 เรื่องเมื่อคุณพ่อของดงเฮ 1 ในสมาชิกในวงเกิดเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันด้วยอาการป่วยเรื้อรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ทำให้สมาชิกในวงต้องเดินทางกลับไปยังเกาหลีใต้เพื่อร่วมพิธีศพที่จัดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2549 หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีศพแล้ว ในระหว่างการเดินทางกลับของ 1 ในสมาชิกในวง ฮีชอล ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ขา ซึ่งแพทย์ระบุว่าฮีชอลนั้นต้องพักงานนานเป็นเวลากว่า 3-6 เดือนด้วยกันส่งผลให้ซูเปอร์จูเนียร์จำเป็นต้องพักงานที่รับไว้ในช่วงหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น 1 สัปดาห์เกือบทั้งหมด
2550 : อัลบั้มที่ 2 Don't Don
ภาพโปรโมตอัลบั้ม Don't Don
สืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของสมาชิกในวง ทำไห้โครงการสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของซูเปอร์จูเนียร์ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกระทั่ง Don't Don ได้รับการออกวางจำหน่ายในที่สุด เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550 ซูเปอร์จูเนียร์ได้ร่วมกันขึ้นแสดงอีกครั้งเป็นครั้งแรกสำหรับการโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ ที่รายการมิวสิกแบงก์ ทางสถานีเคบีเอส เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2550 และการแสดงในครั้งนี้ก็นับเป็นแรกที่ทั้ง 13 คนได้ขึ้นแสดงพร้อมกันในรอบ 1 ปีอีกด้วย
Don't Don เปิดตัวด้วยอันดับที่ 1 บนชาร์ต โดยภายใน 7 วันหลังออกวางจำหน่าย สามารถทำยอดจำหน่ายได้กว่า 60,000 หน่วย[5] และหลังจากนั้น 3 เดือน Don't Don สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากถึง 164,058 ชุด และกลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของซูเปอร์จูเนียร์ นอกจากนี้ ยังรั้งอันดับ 2 ในชาร์ตอัลบั้มขายดีที่สุดในปี พ.ศ. 2550 เป็นรองแค่อัลบั้ม The Sentimental Chord ของเอสจีวอนนาบีที่รั้งอันดับหนึ่ง ด้วยยอดขายที่นำอยู่ราว 26,940 ชุด จากผลงานอัลบั้ม Don't Don ซูเปอร์จูเนียร์มีชื่อเข้าชิงรางวัลในงาน 2007 M.NET/KM Music Festival ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ถึง 7 สาขา และสามารถคว้ารางวัลกลับบ้านได้ถึง 3 รายการ ได้แก่ Netizen Choice Award และ Mobile Popularity รวมไปถึงรางวัลใหญ่ที่สุดในงาน (แดแซง - Daesang) Best Artist of the Year ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอย่างสูงของซูเปอร์จูเนียร์และอัลบั้มชุดนี้ และจากความนิยมในตัวซูเปอร์จูเนียร์อย่างล้นหลามในประเทศไทย ทำให้ล่าสุด พวกเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย - เกาหลีใต้ ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์อีกด้วย
2551 : ปีทองของซูเปอร์จูเนียร์และการบุกตลาดต่างประเทศ
เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เตรียมเปิดตัวกลุ่มย่อยกลุ่มใหม่ ในชื่อซูเปอร์จูเนียร์ ไชนา ท่ามกลางการประท้วงของเหล่าแฟนคลับ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน มีการแถลงข่าวของกลุ่มย่อยกลุ่มนี้ ภายใต้ชื่อ ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม โดยตัวเอ็ม (M) ย่อมาจาก แมนดาริน ประกอบด้วยสมาชิกจากซูเปอร์จูเนียร์จำนวน 5 คนคือ ฮันกยอง , ดงเฮ , คยูฮยอน , รยออุค , ชีวอน และอีก 2 แขกรับเชิญพิเศษ คือ เฮนรี และ โจวมี
7 มิถุนายน ได้มีการเปิดตัวกลุ่ยย่อยใหม่อีกกลุ่มหนึ่งของซุปเปอร์จูเนียร์ ภายใต้ชื่อ ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ (Super Junior Happy)ที่งาน 2008 Dream Concert โดยมีสมาชิกคือ อีทึก , คังอิน , อึนฮยอค , ชินดง , ซองมิน และ เยซอง และ 35 ชั่วโมงหลังจากการจำหน่ายอัลบั้มก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 3500 แผ่น และมียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ กำลังได้รับความนิยม และกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟน ๆ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ซูเปอร์จูเนียร์ได้เดินทางไปร่วมงาน เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส 2008 ที่จัดขึ้นที่เก็นติงไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย พวกเขาได้ขึ้นแสดงเพลง "Mirror" "Don't Don" และ "A Man In Love" ซึ่งในงานนี้ ซูเปอร์จูเนียร์ได้รับรางวัล "ศิลปินยอดนิยมจากเกาหลี" อีกด้วย
ภาพโปรโมตอัลบั้ม Don't Don
สืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของสมาชิกในวง ทำไห้โครงการสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของซูเปอร์จูเนียร์ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกระทั่ง Don't Don ได้รับการออกวางจำหน่ายในที่สุด เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550 ซูเปอร์จูเนียร์ได้ร่วมกันขึ้นแสดงอีกครั้งเป็นครั้งแรกสำหรับการโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ ที่รายการมิวสิกแบงก์ ทางสถานีเคบีเอส เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2550 และการแสดงในครั้งนี้ก็นับเป็นแรกที่ทั้ง 13 คนได้ขึ้นแสดงพร้อมกันในรอบ 1 ปีอีกด้วย
Don't Don เปิดตัวด้วยอันดับที่ 1 บนชาร์ต โดยภายใน 7 วันหลังออกวางจำหน่าย สามารถทำยอดจำหน่ายได้กว่า 60,000 หน่วย[5] และหลังจากนั้น 3 เดือน Don't Don สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากถึง 164,058 ชุด และกลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของซูเปอร์จูเนียร์ นอกจากนี้ ยังรั้งอันดับ 2 ในชาร์ตอัลบั้มขายดีที่สุดในปี พ.ศ. 2550 เป็นรองแค่อัลบั้ม The Sentimental Chord ของเอสจีวอนนาบีที่รั้งอันดับหนึ่ง ด้วยยอดขายที่นำอยู่ราว 26,940 ชุด จากผลงานอัลบั้ม Don't Don ซูเปอร์จูเนียร์มีชื่อเข้าชิงรางวัลในงาน 2007 M.NET/KM Music Festival ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ถึง 7 สาขา และสามารถคว้ารางวัลกลับบ้านได้ถึง 3 รายการ ได้แก่ Netizen Choice Award และ Mobile Popularity รวมไปถึงรางวัลใหญ่ที่สุดในงาน (แดแซง - Daesang) Best Artist of the Year ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอย่างสูงของซูเปอร์จูเนียร์และอัลบั้มชุดนี้ และจากความนิยมในตัวซูเปอร์จูเนียร์อย่างล้นหลามในประเทศไทย ทำให้ล่าสุด พวกเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย - เกาหลีใต้ ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์อีกด้วย
2551 : ปีทองของซูเปอร์จูเนียร์และการบุกตลาดต่างประเทศ
เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เตรียมเปิดตัวกลุ่มย่อยกลุ่มใหม่ ในชื่อซูเปอร์จูเนียร์ ไชนา ท่ามกลางการประท้วงของเหล่าแฟนคลับ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน มีการแถลงข่าวของกลุ่มย่อยกลุ่มนี้ ภายใต้ชื่อ ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม โดยตัวเอ็ม (M) ย่อมาจาก แมนดาริน ประกอบด้วยสมาชิกจากซูเปอร์จูเนียร์จำนวน 5 คนคือ ฮันกยอง , ดงเฮ , คยูฮยอน , รยออุค , ชีวอน และอีก 2 แขกรับเชิญพิเศษ คือ เฮนรี และ โจวมี
7 มิถุนายน ได้มีการเปิดตัวกลุ่ยย่อยใหม่อีกกลุ่มหนึ่งของซุปเปอร์จูเนียร์ ภายใต้ชื่อ ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ (Super Junior Happy)ที่งาน 2008 Dream Concert โดยมีสมาชิกคือ อีทึก , คังอิน , อึนฮยอค , ชินดง , ซองมิน และ เยซอง และ 35 ชั่วโมงหลังจากการจำหน่ายอัลบั้มก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 3500 แผ่น และมียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ กำลังได้รับความนิยม และกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟน ๆ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ซูเปอร์จูเนียร์ได้เดินทางไปร่วมงาน เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส 2008 ที่จัดขึ้นที่เก็นติงไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย พวกเขาได้ขึ้นแสดงเพลง "Mirror" "Don't Don" และ "A Man In Love" ซึ่งในงานนี้ ซูเปอร์จูเนียร์ได้รับรางวัล "ศิลปินยอดนิยมจากเกาหลี" อีกด้วย
2552 : อัลบั้มที่ 3 Sorry, Sorry
อัลบั้มลำดับที่ 3 ของซูเปอร์จูเนียร์ในชื่อ Sorry, Sorry ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2552 โดยก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น มียอดจองอัลบั้มกว่า 150,000 ชุด และซูเปอร์จูเนียร์ได้ทำการขึ้นแสดงเพลง "Sorry, Sorry" ซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม และเพลง "Why I Like You" ที่รายการมิวสิกแบงก์เพื่อประกาศถึงการกลับมา โดยท่าเต้นที่ใช้ในการแสดง รวมไปถึงในมิวสิกวิดีโอนั้น ได้รับการออกแบบโดยนิค แบส นักออกแบบท่าเต้นชื่อดัง อัลบั้ม Sorry, Sorry ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตอัลบั้มขายดีของเกาหลีใต้ซึ่งมียอดจำหน่ายสูงถึง 200,000 ก็อปปี้ ส่วนซิงเกิล "Sorry, Sorry" นั้นก็ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงเช่นกัน นอกจากนั้น single ที่ 2 ของซูเปอร์จูเนียร์ เพลง It's you หลังจากเปิดตัวได้เพียง 1 สัปดาห์ ก็สามารถครองอันดับ 1 ในชาร์ตต่างๆของเกาหลีได้ เช่น รายการมิวสิคแบง ของ KBS
สมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์
สมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์
สมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์
บอยแบนด์จากประเทศเกาหลีใต้ มีจำนวนทั้งสิ้น 13 คน ประกอบด้วย อีทึก (หัวหน้าวง), ฮีชอล, ฮันกยอง, เยซอง, คังอิน, ชินดง, ซองมิน, อึนฮยอค, ดงเฮ, ซีวอน, รยออุค, คีบอม และคยูฮยอน ในจำนวน 13 คนนี้ มีเพียง ฮันกยอง เท่านั้นที่ไม่ใช่ชาวเกาหลีใต้ โดยเขาถือสัญชาติจีน และได้เข้ารับการทดสอบความสามารถหรือ ออดิชัน ที่เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์จัดขึ้นในประเทศจีน
ซูเปอร์จูเนียร์ ยังมีสมาชิกพิเศษอีก 2 คน คือ เฮนรี และโจวมี ทั้งสองเป็นสมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม กลุ่มย่อยของซูเปอร์จูเนียร์ที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบุกตลาดในประเทศจีน
ซูเปอร์จูเนียร์ ยังมีสมาชิกพิเศษอีก 2 คน คือ เฮนรี และโจวมี ทั้งสองเป็นสมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม กลุ่มย่อยของซูเปอร์จูเนียร์ที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบุกตลาดในประเทศจีน
ผลงานเพลงของซูเปอร์จูเนียร์
2005 : Super Junior 05 (TWINS)
2007 : Don't Don
2009 : Sorry, Sorry
อัลบั้มรวมกันเฉพาะกิจ
11 กรกฎาคม 2006 - อัลบั้ม '06 SUMMER SMTOWN
12 ธันวาคม 2006 - อัลบั้ม 2006 WINTER SMTOWN
03 กรกฎาคม 2007 - อัลบั้ม 2007 Summer SMTOWN
07 ธันวาคม 2007 - อัลบั้ม 2007 Winter Sm Town
11 กรกฎาคม 2006 - อัลบั้ม '06 SUMMER SMTOWN
12 ธันวาคม 2006 - อัลบั้ม 2006 WINTER SMTOWN
03 กรกฎาคม 2007 - อัลบั้ม 2007 Summer SMTOWN
07 ธันวาคม 2007 - อัลบั้ม 2007 Winter Sm Town
ซิงเกิ้ล
15 ธันวาคม 2005 - ซิงเกิ้ล Show me your love (ร่วมกับวง ดง บัง ชิน กิ)
17 มิถุนายน 2006 - ซิงเกิ้ล U
16 กรกฎาคม 2007 - ซิงเกิ้ลประกอบภาพยนตร์ Flower Boys
15 ธันวาคม 2005 - ซิงเกิ้ล Show me your love (ร่วมกับวง ดง บัง ชิน กิ)
17 มิถุนายน 2006 - ซิงเกิ้ล U
16 กรกฎาคม 2007 - ซิงเกิ้ลประกอบภาพยนตร์ Flower Boys
อัลบั้มของกลุ่มย่อยต่างๆ
22 กุมภาพันธ์ 2007 - อัลบั้ม Super Junior T
30 เมษายน 2008 - อัลบั้ม Super Junior-M
05 มิถุนายน 2008 - อัลบั้ม Super Junior-Happy
05 พฤศจิกายน 2008 - อัลบั้ม Super JuniorT ROCK&GO
22 กุมภาพันธ์ 2007 - อัลบั้ม Super Junior T
30 เมษายน 2008 - อัลบั้ม Super Junior-M
05 มิถุนายน 2008 - อัลบั้ม Super Junior-Happy
05 พฤศจิกายน 2008 - อัลบั้ม Super JuniorT ROCK&GO
แนวเพลงและสไตล์ทางดนตรี
ผลงานเพลงของซูเปอร์จูเนียร์นั้น อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นแนว เค-ป็อป อันเป็นแนวเพลงที่กำลังได้รับความนิยม เพลงในลักษณะนี้มักจะมีการผสมผสานกันระหว่างดนตรี ร็อก และ อาร์แอนด์บี เพิ่มเข้ามาด้วย ซิงเกิลเปิดตัวของพวกเขา "TWINS (Knock Out)" เป็นเพลงที่ถูกนำกลับมาร้องใหม่ หรือที่เรียกว่า เพลงคัฟเวอร์ ต้นฉบับเดิมเป็นของวง "Triple Eight" บอยแบนด์จากเกาะอังกฤษในชื่อเพลง "Knockout" ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2546 ในฉบับของซูเปอร์จูเนียร์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงสไตล์ของเพลงให้เป็นแร็ป - ร็อกที่หนักหน่วงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยท่อนแร็ปที่เร็วขึ้น และเน้นเสียงเบสที่มีจังหวะรุนแรง ซิงเกิลต่อมา "Miracle" เป็นเพลงรักในแนวป็อปที่เบาสบาย ส่วนซิงเกิ้ล "U" อาจเรียกได้ว่า เป็นแนวเออร์บัน เพราะได้รับอิทธิพลของดนตรีอาร์แอนด์บีเข้ามาใช้มากขึ้น ในอัลบั้มที่ 2 "Don't Don" ซิงเกิลเปิดอัลบั้มในชื่อเดียวกันนั้น เป็นเพลงร็อกที่หนักหน่วง บวกกับแร็ปและอาร์แอนด์บี และได้มีการนำเอาไวโอลินเข้ามาประกอบด้วย ในขณะที่ซิงเกิลที่ 2 อย่าง "Marry U" เป็นเพลงบัลลาด อาร์แอนด์บี นอกจากนี้ยังเพลงกึ่งฮิปฮอบอย่าง "A Man In Love" ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดนตรีแบบเคาะให้จังหวะ เช่น djemba ของแอฟริกัน และ tabla ของอินเดีย ฮีชอล, ชินดง และอึนฮยอค มีรายชื่อในฐานะผู้เขียนท่อนแร็ปในซิงเกิ้ลร่วมระหว่างซูเปอร์จูเนียร์ และดง บัง ชิน กิ อย่าง "Show Me Your Love" นอกจากนั้น อึนฮยอค ยังมีชื่อในฐานะผู้เขียนท่อนแร็ปของซิงเกิล "U" อีกด้วย ในอัลบั้ม "Don't Don" สมาชิกหลายคนได้เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในส่วนของการเขียนเนื้อเพลง อีทึก, ซองมิน, อึนฮยอค และดงเฮ ร่วมกันเขียนเพลงในสไตล์ป็อปชื่อ "I am" และอึนฮยอคยังคงเป็นสมาชิกหลักที่มีบทบาทมากที่สุดในการเขียนและร้องแร็ปในอัลบั้มชุดนี้
ลักษณะเสียงและความสามารถในการขับร้อง
การที่ซูเปอร์จูเนียร์มีจำนวนสมาชิกที่มากถึง 13 คนนั้นย่อมหมายถึง การมีเสียงในลักษณะแตกต่างและหลากหลายช่วง สมาชิกบางคน โดยเฉพาะ เยซอง นั้นได้รับการยอมรับถึงความสามารถในการใช้เทคนิคโหนเสียงสูง อีทึก, ฮีชอล, ฮันคยอง, ซองมิน, ดงเฮ และรยออุค จัดว่ามีเสียงอยูในช่วงแบริโทนขั้นสูง จนถึง ช่วงเทเนอร์ ในขณะที่คังอิน และซีวอนมีเสียงอยู่ในช่วงแบริโทนที่ต่ำกว่า ส่วนชินดง, คิบอม และคยูฮยอนนั้นมีเสียงอย่ในช่วงเบส ในฐานะแร็ปเปอร์ของวง อึนฮยอค, ชินดง, คิบอม ,ฮีชอลและดงแฮ ล้วนมีความสามารถในการสังเคราะห์จังหวะ และการขยับลิ้นที่รัวเร็ว
ข้อกังขาในเรื่องความสามารถ
ซูเปอร์จูเนียร์ถูกมองว่ายังขาดความสามารถในการขับร้องและยังถูกกังขาในเรื่องของการลิปซิง โดยในประเด็นดังกล่าวร้อนแรงยิ่งขึ้น หลังจากทางวงทำการขึ้นแสดงในรายการ Music Core ทางสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นรายการสำหรับการแสดงสด ถึงแม้ว่าแฟนๆจะออกมาโต้แย้งว่า นั่นเป็นอาการเจ็บป่วยของฮีชอลอันนำมาซึ่งความไม่พร้อมในการใช้เสียง (เพราะเขาได้ใช้เสียงในการทำโทนเสียงเอฟเฟคต์ในเพลง Don't don จนไอออกมาเป็นเลือดทุกครั้งที่แสดง) แต่นักวิจารณ์กลับมีความเห็นว่า คำอธิบายดังกล่าวฟังไม่ขึ้น โดยนักวิจารณ์มองว่า ในฐานะวงดนตรีที่มีสมาชิกจำนวนกว่า 13 คน อาการเจ็บป่วยของสมาชิกเพียงคนเดียวย่อมไม่อาจนำมาเป็นข้ออ้างได้ แต่อย่างไรก็ดี การถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความนิยมของแฟนเพลงที่มีต่อซูเปอร์จูเนียร์ โดยยอดขายอัลบั้มยังดำเนินไปอย่างเป็นที่น่าพอใจ
และเพื่อเป็นการลบคำสบประมาท ในการขึ้นแสดงเพลง Don't Don เพื่อประกาศการกลับมาพร้อมกับอัลบั้มที่ 2 นั้น ซูเปอร์จูเนียร์ได้ทำการแสดงสดทั้งหมด โดยในทัวร์คอนเสิร์ตซูเปอร์โชว์ ได้มีการใช้ลิปซิ้งเพียง 6 เพลงเท่านั้น ซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวก
รูปแบบการเต้น
จุดเด่นในการแสดงบนเวทีของซูเปอร์จูเนียร์อย่างหนึ่งคือ การเต้น รูปแบบการเต้นของพวกเขานั้นเรียกกันว่า “การเต้นบนท้องถนน” หรือ “สตรีท แดนซิ่ง” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ การเต้นในลักษณะดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากการเต้นในสไตล์ฮิปฮอป หรือ บี-บอย ในเพลงส่วนใหญ่ของซูเปอร์จูเนียร์นั้นจะมีท่อนบริดจ์ ซึ่งจะมีสมาชิก 2 – 6 คนออกมาทำการเต้น ฮันคยอง, ชินดง, อึนฮยอก, และดงเฮ เป็นสมาชิกที่มีทักษะการเต้นอยู่ในระดับๆ ต้นของวง และมักจะได้รับโอกาสไห้เต้นนำ และเต้นเดี่ยว อยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การเต้นโดยใช้รูปแบบของศิลปะป้องกันตัว ยังได้ถูกนำมาใช้ โดยเฉพาะฮันคยองและซองมินซึ่งมีความสามารถพิเศษในทักษะดังกล่าว และสมาชิกบางคนยังได้มีส่วนร่วมในการออกแบบท่าเต้น เช่น ชินดงซึ่งได้ออกแบบท่าเต้นให้กับซิงเกิล "U" รวมไปถึงเพลงอื่นๆ ส่วนสมาชิกที่เหลือ ก็ได้ร่วมคิดท่าเต้นสำหรับซิงเกิล "Don’t Don" อีกด้วย นอกจากนี้ ซูเปอร์จูเนียร์ยังได้มีโอกาสรวมงานกับ นักออกแบบท่าเต้นชื่อดังอย่าง นิค แบส ที่เคยออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปินระดับโลกอย่าง จัสติน ทิมเบอร์เลค โดยแบสเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นสำหรับซิงเกิล "Sorry, Sorry" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้มล่าสุดนี้ด้วย
ก่อนและหลังการเปิดตัว
ก่อนการเปิดตัวของซูเปอร์จูเนียร์ สมาชิกหลายๆคนได้เคยมีผลงานออกอากาศทางโทรทัศน์มาแล้ว อีทึกเป็นสมาชิกคนแรกที่เคยแสดงเป็นตัวประกอบในละครเรื่อง สงครามแห่งความรัก (อังกฤษ: All About Eve ในปี พ.ศ. 2543 ฮีชอล, ซีวอน และคิบอม ต่างก็เคยแสดงละครอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะคิบอม เขาเคยแสดงละครถึง 4 เรื่อง นับตั้งแต่ซูเปอร์จูเนียร์เปิดตัวต่อสาธารณชนในปี พ.ศ. 2548
ซีวอน เป็นสมาชิกคนแรกที่มีโอกาสได้รับบทบนจอเงิน ในปี พ.ศ. 2549 กับภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ ทุนสร้างของฮ่องกง เรื่อง มหาบุรุษกู้แผ่นดิน (อังกฤษ: Battle of Wits) ในบทเหลียงชือ ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ซีวอนได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงชื่อดัง หลิวเต๋อหัวด้วย
ในปี พ.ศ. 2550 ฮีชอล คังอิน และชินดง ได้ให้เสียงพากย์ในภาพยนตร์แอนนิเมชั่นของฝั่งฮอลลีวู้ดเรื่อง อัลวินกับสหายชิพมังค์จอมซน(อังกฤษ: Alvin and the Chipmunks)
และในปี พ.ศ. 2551 คังอิน มีโอกาสได้รับเล่นภาพยนตร์ของเกาหลีใต้เรื่อง Romantic Comic (Pure Manhwa) ร่วมกับนักแสดงชั้นนำของเกาหลีใต้คนอื่นๆเช่น ยู จิ แท และ ลี ยอน ฮี โดยออกฉายทั่วเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
ลักษณะเสียงและความสามารถในการขับร้อง
การที่ซูเปอร์จูเนียร์มีจำนวนสมาชิกที่มากถึง 13 คนนั้นย่อมหมายถึง การมีเสียงในลักษณะแตกต่างและหลากหลายช่วง สมาชิกบางคน โดยเฉพาะ เยซอง นั้นได้รับการยอมรับถึงความสามารถในการใช้เทคนิคโหนเสียงสูง อีทึก, ฮีชอล, ฮันคยอง, ซองมิน, ดงเฮ และรยออุค จัดว่ามีเสียงอยูในช่วงแบริโทนขั้นสูง จนถึง ช่วงเทเนอร์ ในขณะที่คังอิน และซีวอนมีเสียงอยู่ในช่วงแบริโทนที่ต่ำกว่า ส่วนชินดง, คิบอม และคยูฮยอนนั้นมีเสียงอย่ในช่วงเบส ในฐานะแร็ปเปอร์ของวง อึนฮยอค, ชินดง, คิบอม ,ฮีชอลและดงแฮ ล้วนมีความสามารถในการสังเคราะห์จังหวะ และการขยับลิ้นที่รัวเร็ว
ข้อกังขาในเรื่องความสามารถ
ซูเปอร์จูเนียร์ถูกมองว่ายังขาดความสามารถในการขับร้องและยังถูกกังขาในเรื่องของการลิปซิง โดยในประเด็นดังกล่าวร้อนแรงยิ่งขึ้น หลังจากทางวงทำการขึ้นแสดงในรายการ Music Core ทางสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นรายการสำหรับการแสดงสด ถึงแม้ว่าแฟนๆจะออกมาโต้แย้งว่า นั่นเป็นอาการเจ็บป่วยของฮีชอลอันนำมาซึ่งความไม่พร้อมในการใช้เสียง (เพราะเขาได้ใช้เสียงในการทำโทนเสียงเอฟเฟคต์ในเพลง Don't don จนไอออกมาเป็นเลือดทุกครั้งที่แสดง) แต่นักวิจารณ์กลับมีความเห็นว่า คำอธิบายดังกล่าวฟังไม่ขึ้น โดยนักวิจารณ์มองว่า ในฐานะวงดนตรีที่มีสมาชิกจำนวนกว่า 13 คน อาการเจ็บป่วยของสมาชิกเพียงคนเดียวย่อมไม่อาจนำมาเป็นข้ออ้างได้ แต่อย่างไรก็ดี การถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความนิยมของแฟนเพลงที่มีต่อซูเปอร์จูเนียร์ โดยยอดขายอัลบั้มยังดำเนินไปอย่างเป็นที่น่าพอใจ
และเพื่อเป็นการลบคำสบประมาท ในการขึ้นแสดงเพลง Don't Don เพื่อประกาศการกลับมาพร้อมกับอัลบั้มที่ 2 นั้น ซูเปอร์จูเนียร์ได้ทำการแสดงสดทั้งหมด โดยในทัวร์คอนเสิร์ตซูเปอร์โชว์ ได้มีการใช้ลิปซิ้งเพียง 6 เพลงเท่านั้น ซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวก
รูปแบบการเต้น
จุดเด่นในการแสดงบนเวทีของซูเปอร์จูเนียร์อย่างหนึ่งคือ การเต้น รูปแบบการเต้นของพวกเขานั้นเรียกกันว่า “การเต้นบนท้องถนน” หรือ “สตรีท แดนซิ่ง” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ การเต้นในลักษณะดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากการเต้นในสไตล์ฮิปฮอป หรือ บี-บอย ในเพลงส่วนใหญ่ของซูเปอร์จูเนียร์นั้นจะมีท่อนบริดจ์ ซึ่งจะมีสมาชิก 2 – 6 คนออกมาทำการเต้น ฮันคยอง, ชินดง, อึนฮยอก, และดงเฮ เป็นสมาชิกที่มีทักษะการเต้นอยู่ในระดับๆ ต้นของวง และมักจะได้รับโอกาสไห้เต้นนำ และเต้นเดี่ยว อยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การเต้นโดยใช้รูปแบบของศิลปะป้องกันตัว ยังได้ถูกนำมาใช้ โดยเฉพาะฮันคยองและซองมินซึ่งมีความสามารถพิเศษในทักษะดังกล่าว และสมาชิกบางคนยังได้มีส่วนร่วมในการออกแบบท่าเต้น เช่น ชินดงซึ่งได้ออกแบบท่าเต้นให้กับซิงเกิล "U" รวมไปถึงเพลงอื่นๆ ส่วนสมาชิกที่เหลือ ก็ได้ร่วมคิดท่าเต้นสำหรับซิงเกิล "Don’t Don" อีกด้วย นอกจากนี้ ซูเปอร์จูเนียร์ยังได้มีโอกาสรวมงานกับ นักออกแบบท่าเต้นชื่อดังอย่าง นิค แบส ที่เคยออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปินระดับโลกอย่าง จัสติน ทิมเบอร์เลค โดยแบสเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นสำหรับซิงเกิล "Sorry, Sorry" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้มล่าสุดนี้ด้วย
ก่อนและหลังการเปิดตัว
ก่อนการเปิดตัวของซูเปอร์จูเนียร์ สมาชิกหลายๆคนได้เคยมีผลงานออกอากาศทางโทรทัศน์มาแล้ว อีทึกเป็นสมาชิกคนแรกที่เคยแสดงเป็นตัวประกอบในละครเรื่อง สงครามแห่งความรัก (อังกฤษ: All About Eve ในปี พ.ศ. 2543 ฮีชอล, ซีวอน และคิบอม ต่างก็เคยแสดงละครอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะคิบอม เขาเคยแสดงละครถึง 4 เรื่อง นับตั้งแต่ซูเปอร์จูเนียร์เปิดตัวต่อสาธารณชนในปี พ.ศ. 2548
ซีวอน เป็นสมาชิกคนแรกที่มีโอกาสได้รับบทบนจอเงิน ในปี พ.ศ. 2549 กับภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ ทุนสร้างของฮ่องกง เรื่อง มหาบุรุษกู้แผ่นดิน (อังกฤษ: Battle of Wits) ในบทเหลียงชือ ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ซีวอนได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงชื่อดัง หลิวเต๋อหัวด้วย
ในปี พ.ศ. 2550 ฮีชอล คังอิน และชินดง ได้ให้เสียงพากย์ในภาพยนตร์แอนนิเมชั่นของฝั่งฮอลลีวู้ดเรื่อง อัลวินกับสหายชิพมังค์จอมซน(อังกฤษ: Alvin and the Chipmunks)
และในปี พ.ศ. 2551 คังอิน มีโอกาสได้รับเล่นภาพยนตร์ของเกาหลีใต้เรื่อง Romantic Comic (Pure Manhwa) ร่วมกับนักแสดงชั้นนำของเกาหลีใต้คนอื่นๆเช่น ยู จิ แท และ ลี ยอน ฮี โดยออกฉายทั่วเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
ปฏิบัติการจู่โจมหนุ่มสุดฮอต
ใบปิดภาพยนตร์เรื่องปฏิบัติการจู่โจมหนุ่มสุดฮอต
สมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์(ยกเว้นคยูฮยอน) ได้ร่วมเล่นในภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างเป็นทางการในเรื่อง ปฏิบัติการจู่โจมหนุ่มสุดฮอต (อังกฤษ: Attack on the Pin-Up Boys) ซึ่งจัดสร้างโดย เอสเอ็ม พิคเจอร์ส
ปฏิบัติการจู่โจมหนุ่มสุดฮอต ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ในประเทศเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่า ตัวภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวก แต่กระนั้น ยอดการขายบัตรเข้าชมกลับไม่เป็นไปตามที่ต้นสังกัดคาดหมายไว้ ถึงแม้ว่าจะทำรายได้ได้ดีในสัปดาห์แรกของการเข้าฉาย โดยนับว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ เอสเอ็ม พิคเจอร์ส
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อฉบับดีวีดีของ ปฏิบัติการจู่โจมหนุ่มสุดฮอต ออกวางจำหน่าย กลับขึ้นแท่นชาร์ตดีวีดีขายดีทั้งในและนอกเกาหลีใต้ โดยสามารถทำรายได้ให้กับ เอสเอ็ม พิคเจอร์สกว่า 8 พันล้านวอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น