วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขบวนการค้ามนุษย์

ขบวนการค้ามนุษย์

ไม่ว่าจะเป็นการเต็มใจหรือ การล่อลวง จับตัว บังคับไปก็ดีล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่น่ากลัวและโหดร้ายมากๆเรื่องราวเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของใครก็ได้ขบวนการค้ามนุษย์เติบโตและเป็นเครือข่ายที่น่าสพรึงกลัวนอกเหนือจากขบวนการค้ายาเสพติด เนื่องจาก "มนุษย์" เป็นสินค้าซึ่งนำไปหาประโยชน์ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะหมดสภาพ หรือเสียชีวิตไป


โดยเฉพาะกับเด็กๆ


จากการจัดแถลงข่าวของ "สถานการณ์เด็กหายในรอบ 4 ปี" ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา



คุณเอกบดินทร์หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าเด็กอายุ 0-18 ปี มีสถิติหายมากที่สุด และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะปี 2549 ที่มีคนรู้จักศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มากขึ้น ทำให้ได้รับแจ้งเด็กหายมากถึง 221 ราย

ส่วนในปี 2550 มีจำนวน 169 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากมีความรุนแรงและปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น





อีกทั้งกลุ่มที่ลักพาตัวยังไปแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ
เช่น เด็กอายุ 13 ปี ให้เป็นโคโยตี้ อายุ 16 ปี ให้ขายบริการทางเพศ ซึ่งเด็กที่หายไปเหล่านี้ศูนย์สามารถติดตามกลับมาได้ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือไร้เบาะแสและข้อมูลในการเชื่อมโยงติดตามหาตัว
แบ่งประเภทการหายเป็น 10 ประเภท การถูกล่อลวงเพื่อทางเพศเป็นสติถิที่มากที่สุด
อายุต่ำสุดคือ 9 ขวบ
ซึ่งเหล่านี้จะมีผลกระทบตามมาอีกคือ เด็กเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีเด็กบางคนที่สมัครใจออกจากบ้าน เด็กผู้หญิงจะก้าวเข้าสู่อาชีพด้านมืด ส่วนเด็กผู้ชายจะไปสู่เด็กเร่ร่อนและกลายเป็นอาชญากร
ข้ออ้างที่ว่ายังหายไปไม่ครบ 24 ชั่วโมง เป็นตัวขัดขวางในการแจ้งความกับภาครัฐคำว่า 24 ชั่วโมงไม่ได้เป็นตัวบทกฎหมายออกมา เป็นเพียงดุลพินิจที่ควรใช้กับผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ควรใช้กับเด็ก
เคยมีกรณีเด็กอายุ 6 เดือนแล้วหายไป แต่ตำรวจกลับบอกว่ายังไม่ครบ 24 ชั่วโมง ไม่รับแจ้งความ ซึ่งควรระบุชี้ชัดไปเลยว่า เด็กหายควรจะมีวิธีการตามหาอย่างไร หรือคนหายควรทำอย่างไร ซึ่งบ้านเรายังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับเด็กในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
การเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ปกครองหันมาพึ่งศูนย์ข้อมูลคนหายฯ ซึ่งภายใน 1 เดือนศูนย์จะได้รับแจ้งเด็กหายประมาณ 30-40 ราย คิดเป็น 1-2 คนต่อวัน
แม้จะมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กออกมา แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่

ดังนั้นวิธีป้องกันที่ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายฯ บอกคือ
ประการแรก ต้องให้ความรัก ความอบอุ่น
พูดคุยกันภายในครอบครัว เป็นพื้นฐานอันสำคัญในการป้องกันเด็กหาย
นอกเหนือ จากที่ศูนย์พยายามผลักดันให้เรื่องตามหาเด็กหายเป็นกฎหมายรูปธรรม
นอกจากนี้ จากผลการวิจัยอัตราเด็กหายพบว่าภาคกลางมีอัตราเฉลี่ยสูงถึง 54 เปอร์เซ็นต์
รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 26 เปอร์เซ็นต์ และเพศหญิงเป็นเพศที่หายตัวไปมากที่สุดถึง 88 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงอายุ 11-15 ปีมีมากถึง 62 เปอร์เซ็นต์
และอายุ 16-18 ปี 34 เปอร์เซ็นต์ และประเภทของการสูญหายคือ ถูกล่อล่วงเพื่อทางเพศสูงสุด

ปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญหายของเด็กและเยาวชน มีทั้งปัจจัยจากภายในและภายนอก
ซึ่งปัจจัยภายในที่สำคัญที่สุด คือ
1. ผู้ปกครองไม่มีเวลาเลี้ยงดูบุตร ไม่มีเวลาได้พูดคุยหรือปรึกษาทำให้เกิดช่องว่างขึ้น
2. กรณีการอาศัยอยู่กับญาติจะมีส่วนในเรื่องของการอบรมเลี้ยงดู การว่ากล่าวสั่งสอนไม่ลึกซึ้งเท่ากับพ่อแม่ เพราะกลัวว่าเด็กจะโกรธเคือง
3. ผู้ปกครองเด็กแยกทางกัน ซึ่งเด็กที่อยู่ในภาวะพ่อแม่คนเดียว จะทำให้เด็กมีปมด้อยกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็ก อาจจะสมัครใจหนีออกจากบ้าน" เอกบดินทร์ กล่าว
ยังมีปัจจัยภายนอก ที่เอกบดินทร์ไม่อยากให้มองข้ามคือสภาพแวดล้อม เช่น การมีโทรศัพท์ใช้ส่วนตัว ช่วงที่มีปัญหากับเพื่อน หรือถูกหลอกจากคนที่เข้ามาตีสนิท เป็นต้น (ในยุคอินเดอร์เน็ท การแช็ทออนไลน์ ก็เข้ามามีส่วนมากและง่ายขึ้น)

บางส่วนจากศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงาผู้สูญหายที่รับแจ้งประจำปี พ.ศ. 2551 ทั้งหมดจำนวน 20 คน พบแล้ว 2 คน ยังดำเนินการค้นหา 18 คน (แสดงหน้าเว็บไซต์จำนวน 2 คน)







ข้อมูลผู้สูญหาย ชื่อ-สกุล : อุไรพร ชุมสงค์ ชื่อเล่น : บี

อายุปัจจุบัน : 12 ปี ( อายุขณะที่หาย 12 ปี )

ลักษณะส่วนตัวที่เด่นชัด
1. รูปร่าง : อ้วน
2. สูงประมาณ : 150 ซม.
3. น้ำหนักประมาณ : 56 กก.
4. ลักษณะทรงผม : สั้นประบ่า
5. สีผิว : ขาว , รูปหน้า : กลม
6. ตำหนิ : แผลเป็นที่หน้าผาก(แผลเย็บ)


ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
1. วันที่หาย : 14 มกราคม พ.ศ.2551
2. วันที่แจ้ง : 16 มกราคม พ.ศ.2551 แจ้งความที่ : สน.ท่าพระ

ข้อมูลส่วนตัว เมื่อ วันที่ 14 ม.ค. 51 น้องบีได้หายตัวออกจากบ้านเวลา 19.00 น. จากบริเวณ ซ.เพชรเกษม 15 บางกอกใหญ่ ท่าพระ น้องบีมีอาการทางสมองไม่สามารถบอกชื่อและที่อยู่ของตนได้ แต่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับบุคคลอื่นได้ น้องบีสวมเสื้อสีแดง กางเกงสามส่วน รองเท้าสีฟ้า






ข้อมูลผู้สูญหาย ชื่อ-สกุล : ชัย วรรณ ชื่อเล่น : เอ๋
อายุปัจจุบัน : 14 ปี ( อายุขณะที่หาย 14 ปี )
ลักษณะส่วนตัวที่เด่นชัด
1. รูปร่าง : ท้วม
2. สูงประมาณ : 158 ซม.
3. น้ำหนักประมาณ : 57 กก.
4. ลักษณะทรงผม : รองทรง
5. สีผิว : , รูปหน้า :
6. ตำหนิ :
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
1. วันที่หาย : 03 มกราคม พ.ศ.2551
2. วันที่แจ้ง : 14 มกราคม พ.ศ.2551 แจ้งความที่ : สน.ห้วยขวาง
ข้อมูลส่วนตัว น้องเอ๋ หายออกจากบ้านบริเวณตลาดห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2551 ใส่เสื้อสีดำกางเกงผ้าผูก ซึ่งป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม ล่าสุดมีคนพบเห็นน้องเอ๋แถว ม.หอการค้า

เบอร์โทรฯฉุกเฉิน เหตุด่วนเหตุร้าย 191
สอบถามเด็กหาย 0 2282 1815 รับแจ้งช่วยเหลือเด็ก 1578
ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา อาคารเลิศปัญญา 41 ชั้น 9 ห้อง 907 ซอยเลิศปัญญา(ซ.ศรีอยุธยา 12)ถนนศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร 0-2642-7991 ต่อ 11 โทรสาร 0-2642-7991 ต่อ 18
E-mail : info@backtohome.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น